5 วิธี ควบคุมอุณหภูมิ และความชื้นในห้องเซิร์ฟเวอร์ขององค์กร
คุณภาพ ความแรง และความเสถียรของ Server ไม่ได้อยู่ที่สเป็คอุปกรณ์ที่คุณเลือกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะต่อให้วางระบบ Server ให้มีคุณภาพสูง แต่ถ้าคุณขาดการดูแล ปัญหาต่างๆ ก็ตามมาได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นระบบล่ม อุปกรณ์เสียหาย หรือข้อมูลสูญหาย แต่สิ่งที่รุนแรงกว่านั้นคือผลกระทบทางธุรกิจ ไม่สามารถให้บริการได้ สูญเสียความเชื่อมั่นจากลูกค้า หรือค่าเสียหายจาก Downtime
เพียงเพราะคุณมองข้ามเรื่องง่ายๆ อย่าง “อุณหภูมิ” และ “ความชื้น” ภายในห้องเซิร์ฟเวอร์
อุปกรณ์ IT ทั้งหมดที่อยู่ในห้องเซิร์ฟเวอร์ ไม่ว่าจะเป็น เซิร์ฟเวอร์ เราเตอร์ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล ไปจนถึง สวิตช์ สามารถเสื่อมสภาพได้ตามสภาพแวดล้อมของห้องเซิฟเวอร์ เช่น
หากอุณหภูมิที่สูงเกินไป ก็สามารถทำให้ CPU ทำงานหนักจนเกิดความร้อนสะสมได้ แล้วทำให้ระบบทำงานช้าลง หรือหยุดทำงานกะทันหัน
ถ้าความชื้นสัมพัทธ์ต่ำเกินไปสามารถทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตได้ และเป็นอันตรายต่อวงจรไฟฟ้า
และความชื้นที่สูงเกินไป ก็สามารถทำให้เกิดน้ำเกาะตามชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และส่งผลให้เกิดการกัดกร่อน หรือช็อตไฟฟ้าขึ้นมาได้เช่นกัน
เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น นี่คือ 5 เทคนิคสำคัญในการควบคุมอุณหภูมิ และความชื้นในห้องเซิร์ฟเวอร์ ที่จะช่วยให้องค์กรของคุณดูแลระบบไอทีได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย ในระยะยาว
ระบบปรับอากาศแบบทั่วไปไม่สามารถจัดการความร้อนที่สูง และทำงานอย่างต่อเนื่องจากอุปกรณ์เซิร์ฟเวอร์ได้ Precision Cooling จึงถูกออกแบบมาเพื่อควบคุมอุณหภูมิ และความชื้นของอุปกรณ์เหล่านี้โดยเฉพาะ โดยสามารถควบคุมการทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง เหมาะสำหรับห้องที่มีภาระโหลดสูง และต้องการความเสถียร
เริ่มต้นตั้งแต่การจัดวางตู้เซิร์ฟเวอร์ให้เกิดการไหลเวียนของอากาศ (Cold Aisle & Hot Aisle) รวมถึงการติดตั้งแผงปิดช่องว่างหน้าตู้ จะช่วยให้ลมร้อน และลมเย็นไม่ตีกัน และทำให้ระบบทำความเย็นมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดภาระของแอร์
การมีเซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิ และความชื้นภายในห้องเซิร์ฟเวอร์ จะช่วยให้องค์กรสามารถตรวจสอบสภาพแวดล้อม และได้รับแจ้งเตือนทันทีเมื่อมีเกิดความผิดปกติ ลดโอกาสเกิดความเสียหายจากความร้อน หรือความชื้นโดยไม่รู้ตัว
ห้องที่มีความชื้นต่ำ อาจต้องติดตั้งเครื่องทำความชื้นเพิ่มเติม เพื่อปรับความชื้นให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ส่วนห้องที่มีความชื้นสูงอาจต้องใช้เครื่องดูดความชื้น เพื่อป้องกันปัญหาน้ำเกาะที่อุปกรณ์
การล้างกรองอากาศของแอร์ ตรวจสอบเซนเซอร์ และดูแลพัดลมระบายอากาศควรทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าระบบควบคุมสภาพแวดล้อมทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตลอดเวลา
สำหรับสเกลห้องเซิฟเวอร์ที่ใช้ในสำนักงานทั่วไป หรือองค์กรขนาดกลาง ที่ใช้ห้องที่มีพื้นที่จำกัด และอุปกรณ์จำนวนไม่มาก สามารถใช้เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วน หรือแอร์บ้านร่วมกับพัดลมช่วยระบายความร้อนได้ โดยติดตั้งเซนเซอร์ตรวจวัดเพื่อควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งค่าใช้จ่ายต่ำ แต่จำเป็นต้องดูแลบ่อยครั้ง และติดตั้งเครื่องมือสำรองไว้ด้วย เช่น แอร์สำรอง ตรวจสอบอุณหภูมิประจำ และติดตั้งระบบแจ้งเตือนผ่านอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อความปลอดภัย
สำหรับห้องที่มีตู้เซิร์ฟเวอร์จำนวนมาก หรือศูนย์ข้อมูลองค์กรขนาดใหญ่ ต้องให้ความสำคับ และทำระบบควบคุมที่ซับซ้อนกว่า ใช้ระบบ Precision Cooling ระบบควบคุมความชื้นอัตโนมัติ การออกแบบ Airflow อย่างเป็นระบบ รวมถึงการติดตั้งเซนเซอร์หลายจุดพร้อมระบบตรวจวัดแบบเรียลไทม์ และที่สำคัญ ควรมีทีมงานดูแลเฉพาะ บำรุงรักษาเป็นรอบตามแผน PM เพราะหากเกิดปัญหา ความสูญเสียจะมีมากกว่าห้องขนาดเล็กแน่นอน
การควบคุมอุณหภูมิ และความชื้นในห้องเซิร์ฟเวอร์คือหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของความมั่นคงปลอดภัยด้าน IT ซึ่งส่งผลโดยตรงต่ออายุการใช้งานของอุปกรณ์ ความต่อเนื่องของระบบ และความปลอดภัยของข้อมูล องค์กรจึงควรให้ความสำคัญกับการออกแบบระบบทำความเย็นและควบคุมความชื้นที่เหมาะสมกับขนาดและลักษณะการใช้งานของห้องเซิร์ฟเวอร์ ไม่ว่าจะเป็นห้องขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ การลงทุนในระบบควบคุมที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงด้าน IT ในระยะยาว และช่วยให้องค์กรดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคง
แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าการดูแลห้องเซิฟเวอร์มันยุ่งยากเกิน ลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้ฟรีๆ ที่ @clientchill หรือโทร 024302422
BLOGGER
Karun.sCREATE DATE
25/07/2025CATEGORY
บทความทั่วไปติดต่อสอบถาม
เปิดทำการ วันจันทร์ - วันศุกร์
ตั้งแต่เวลา 9.30 - 18.00 น.
02 430 2422