HAIT คืออะไร มาตรฐานด้าน IT ที่โรงพยาบาลยุคใหม่ต้องมี

หน้าหลัก    บทความ    HAIT คืออะไร มาตรฐาน...

Post Image

HAIT คืออะไร มาตรฐานด้าน IT ที่โรงพยาบาลยุคใหม่ต้องมี

HAIT คืออะไร? มาตรฐานด้าน IT ที่โรงพยาบาลยุคใหม่ต้องมี

เมื่อเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาระบบโรงพยาบาลมากขึ้น ความปลอดภัยของข้อมูล และประสิทธิภาพในการให้บริการทางการแพทย์ ล้วนขึ้นอยู่กับศักยภาพระบบ IT ของโรงพยาบาล และหนึ่งในมาตรฐานที่เป็น “หัวใจ” ระบบ IT สำหรับโรงพยาบาลเลยก็คือ HAIT

บทความนี้เราจะขยายความให้ทุกคนเข้าใจว่า HAIT คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญ และทีม IT สำหรับโรงพยาบาลต้องเตรียมตัวอย่างไรเพื่อให้ได้การรับรองนี้มา บทความนี้จะตอบทุกคำถามที่คุณอยากรู้

 

HAIT คืออะไร?

Healthcare Application and Infrastructure Technology หรือสั้นๆ เรียกว่า HAIT คือมาตรฐานที่กำหนดแนวทางการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับโรงพยาบาล โดยครอบคลุมทั้งระบบ Software, Workflow ความปลอดภัยของข้อมูล และโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริหารจัดการข้อมูลผู้ป่วยอย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพให้ตามมาตรฐานสากล

 

ความสำคัญของ HAIT กับธุรกิจโรงพยาบาล

หลายโรงพยาบาลในไทยยังใช้ระบบ IT ที่ไม่มีมาตรฐาน ส่งผลให้เกิดปัญหาด้าน IT อยู่บ่อยครั้ง เช่น ข้อมูลสูญหาย เชื่อมต่อระบบไม่ได้ หรือช่องโหว่ที่ทำให้เกิดความเสี่ยงถูกโจมตีด้านไซเบอร์ การนำ HAIT มาใช้จึงเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงต่อการพัฒนาโรงพยาบาลในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็น

1. เพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการผู้ป่วย

ด้วยโครงสร้างระบบที่เป็นมาตรฐาน ทีมแพทย์สามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ลดความผิดพลาดในการรักษา และส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ดียิ่งขึ้น

2. ยกระดับภาพลักษณ์องค์กร

โรงพยาบาลที่ได้รับการรับรอง HAIT แสดงให้เห็นถึงความพร้อมด้านเทคโนโลยี และการบริหารจัดการข้อมูลอย่างเป็นระบบ ซึ่งช่วยสร้างความน่าเชื่อถือทั้งในสายตาผู้ป่วยและพันธมิตรธุรกิจ

3. ลดความเสี่ยงด้าน Cybersecurity

ข้อมูลผู้ป่วยเป็นข้อมูลที่มีความอ่อนไหวและมูลค่าสูง หากถูกโจมตีหรือรั่วไหล อาจนำไปสู่การสูญเสียทางชื่อเสียงและค่าใช้จ่ายมหาศาล HAIT กำหนดให้ระบบมีการจัดการด้านความปลอดภัยแบบ End-to-End ซึ่งลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้อย่างมาก

4. สอดคล้องกับมาตรฐานต่างประเทศ

ไม่ว่าจะเป็น HIPAA (สหรัฐอเมริกา), ISO/IEC 27001, หรือ HL7 ระบบที่ได้รับการปรับปรุงตามแนวทาง HAIT จะมีความสามารถในการเชื่อมโยงกับระบบอื่นๆ และขยายไปยังการทำ Telemedicine หรือ Cross-Hospital Data Exchange ได้ง่ายขึ้น

 

ขั้นตอนการเตรียมตัวเพื่อขอการรับรอง HAIT

สำหรับโรงพยาบาลที่ต้องการได้รับการรับรอง HAIT ลองเริ่มต้นจากการตรวจสอบระบบเดิมดูได้ตามนี้

1. สำรวจระบบโครงสร้างพื้นฐาน (IT Infrastructure Audit)

ลองตรวจสอบห้อง Server ดูว่ามีการควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น ระบบสำรองไฟ ระบบดับเพลิงแล้วอยู่ หรือไม่ รวมไปถึง ตรวจสอบวิธีการจัดเก็บข้อมูล และการสำรอง หรือกู้คืนข้อมูล

2. ตรวจสอบระบบซอฟต์แวร์ที่ใช้งาน

ระบบต่างๆ ที่โรงพยาบาลใช้งานอยู่ เช่น HIS, LIS, RIS หรือ PACS ต้องมีการเชื่อมต่อข้อมูลกันอยู่ และสามารถทำงานร่วมกันได้โดยไม่มีข้อผิดพลาด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ และแพทย์สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย ไม่ต้องกรอกซ้ำๆ

ซึ่งซอฟต์แวร์เหล่านี้ควรออกแบบมาให้ รองรับมาตรฐาน HL7 หรือ FHIR ด้วย เพราะเป็นมาตรฐานกลางที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการแพทย์ทั่วโลก ช่วยให้เชื่อมต่อกับระบบภายนอก เช่น ระบบ Telemedicine หรือฐานข้อมูลส่วนกลางได้ในอนาคต

รวมถึง ต้องมีระบบกำหนดสิทธิ์ผู้ใช้งานที่ชัดเจน เช่น ใครมีสิทธิ์ดูข้อมูลอะไรบ้าง มีการเก็บ Log เพื่อตรวจสอบย้อนหลังได้ว่าใครเข้าถึง หรือแก้ไขข้อมูลเมื่อไหร่ ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อกำหนดหลักของ HAIT เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลผู้ป่วย

3. ประเมินด้าน Cybersecurity

เมื่อโรงพยาบาลมีการเชื่อมต่อระบบกับหลายส่วนมากขึ้น ความปลอดภัยของข้อมูลก็ยิ่งเป็นเรื่องสำคัญ ทางโรงพยาบาลควรมีระบบป้องกันขั้นพื้นฐาน เช่น มี Firewall, โปรแกรมป้องกันไวรัส, ระบบตรวจจับภัยคุกคาม IDS/IPS และระบบ Endpoint Protection รวมไปถึงต้องมีการอัปเดตที่สม่ำเสมอ

อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลย คือ การให้ความรู้กับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นทีมเวชระเบียน หรือพยาบาล ก็ควรรู้จักภัย และวิธีป้องกันตัวเองด้วย ทั้ง Phishing หรือ Social Engineering เพราะสิ่งที่อันตรายที่สุดมักเริ่มจาก ความไม่รู้ นี่แหล่ะ

4. จัดทำเอกสาร และแนวปฏิบัติ

นอกจากระบบจะต้องพร้อม และปลอดภัยแล้ว โรงพยาบาลก็ควรมี เอกสารที่ชัดเจน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการทำงานของทีม IT และเจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

เช่น ควรมีนโยบายด้าน IT ระบุให้ชัดเจนว่าใครต้องรับผิดชอบอะไรบ้างในการดูแลระบบ มีแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการสำรองข้อมูล การอัปเดตระบบ การจัดการเมื่อเกิดเหตุการณ์ผิดปกติ รวมถึงขั้นตอนการขอสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลต่างๆ

นอกจากนี้ยังควรมี SOP (Standard Operating Procedures) ที่เป็นคู่มือแบบ Step-by-Step ในการทำงาน เช่น วิธีติดตั้งเครื่องใหม่ให้ปลอดภัย, วิธีรีสตาร์ท Server โดยไม่กระทบกับระบบหลัก, หรือแม้แต่การรายงานปัญหาเมื่อเจอการโจมตีจากมัลแวร์

การมีเอกสารเหล่านี้จะช่วยให้ระบบ IT ของโรงพยาบาลไม่ยึดติดกับคนใดคนหนึ่ง และสามารถทำงานต่อได้แม้มีการเปลี่ยนทีม หรือส่งต่อให้หน่วยงานตรวจสอบจากภายนอก

 

อยากได้การรับรอง HAIT แต่ยังไม่เข้าใจ ลองปรึกษา ClientChill

เพราะเราเข้าใจความต้องการของธุรกิจโรงพยาบาล เราจึงพร้อมให้บริการได้แบบครบวงจร ตั้งแต่การสำรวจพื้นที่ ออกแบบ ไปจนถึงติดตั้ง และดูแลหลังการใช้งานให้กับโรงพยาบาลของคุณ

- เรามี Solution พร้อมให้คุณครบทุกด้านไม่ว่าจะเป็น
- ระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้นอัจฉริยะ
- โครงสร้างตามมาตรฐาน TIA-942 และ ISO/IEC 27001
- ระบบไฟฟ้าสำรอง พร้อมระบบเฝ้าระวัง 24/7
- ระบบควบคุมการเข้าถึงและกล้องวงจรปิด
- รองรับการขยายตัวในอนาคต (Scalability)

บริการของเราช่วยให้ทีม IT ของคุณสามารถ Focus กับการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ได้เต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน

หากคุณกำลังมองหา Partner ที่เข้าใจความต้องการเฉพาะของโรงพยาบาล และสามารถช่วยคุณสร้างห้อง Server ที่รองรับมาตรฐาน HAIT ได้จริง ClientChill พร้อมให้คำปรึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

โทร : 024302422

Add LINE OA : @274upge

 

INFORMATIONS

BLOGGER

karun.s

CREATE DATE

03/08/2025

CATEGORY

บทความทั่วไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ นโยบายและการใช้งานคุกกี้ ยอมรับ